เกจวัดความดันเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวัดแรงดันที่เกิดขึ้นในระบบท่อหรือถัง มีหลายแบบที่มีการใช้งานแตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะรู้จักและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเกจวัดความดันต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้งานเกจวัดความดันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
สิ่งที่ควรจำ:
- เกจวัดความดันประกอบไปด้วยหลายแบบ เช่น เกจวัดความดันแบบธรรมดา (Dry pressure gauge) และเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน (Oil Pressure gauge)
- เกจวัดความดันแบบธรรมดาไม่มีน้ำมันอยู่ภายใน ส่วนเกจวัดความดันแบบมีน้ำมันมีน้ำมันอยู่ภายในเพื่อลดการสั่นและแรงกระชาก
- เกจวัดความดันสามารถแบ่งตามย่านการวัดได้เป็นเกจวัดความดันบรรยากาศ เกจวัดความดันสุญญากาศ และเกจวัดความดันปกติ
- เกจวัดความดันแบบธรรมดาอาจมีข้อดีเป็นความรวดเร็วในการวัด แต่มีข้อเสียเกี่ยวกับการเกิดไอน้ำหรือฝ้าข้างใน
- เกจวัดความดันแบบมีน้ำมันมีความแม่นยำสูงและสามารถใช้งานในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงความดันฉับพลันได้ดีกว่าแบบธรรมดา
เกจวัดความดันแบบธรรมดา (Dry pressure gauge)
เกจวัดความดันแบบธรรมดาไม่มีน้ำมันอยู่ข้างใน ใช้แอกก์ซเดอร์ธรรมดาที่ถูกดูดความชื้นออก แต่ก็มีความจำเป็นต้องระมัดระวังต่ออุณหภูมิที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมบางแห่ง ที่อุณหภูมิเย็นจัด เนื่องจากอาจเกิดปัญหาไอน้ำที่จับกันเป็นหยดน้ำหรือฝ้าข้างในทำให้อ่านค่าไม่ได้
ข้อดีของเกจวัดความดันแบบธรรมดา | ข้อเสียของเกจวัดความดันแบบธรรมดา |
---|---|
โปร่งใสและอ่านค่าความดันได้ง่าย | อาจเกิดปัญหาไอน้ำภายในเมื่ออุณหภูมิเย็น |
ราคาเป็นระยะไกล | ไม่มีการลดและป้องกันการสั่นของเข็มแรงดัน |
ด้วยความสะดวกในการใช้งานและคุ้มค่าที่จะได้รับ การเลือกใช้เกจวัดความดันแบบธรรมดาก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับงานวัดแรงดันทั่วไป
ตัวอย่างคันจิ๊กและแบบด้านทางวิศวกรรมของเกจวัดความดันแบบธรรมดา
เกจวัดความดันแบบธรรมดาถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กล่องควบคุมเครื่องมือวัดแรงดันในระบบลม, ระบบน้ำ, การเคลือบผิว เป็นต้น
เกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน (Oil Pressure gauge)
เกจวัดความดันแบบมีน้ำมันมีน้ำมันอยู่ภายใน ส่วนใหญ่ใช้กลีเซอรีนหรือซิลิโคนออยล์ เพื่อลดการสั่นของเข็มและแรงกระชากของแรงดัน นอกจากนี้ เกจวัดความดันแบบมีน้ำมันยังสามารถใช้งานในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงความดันฉับพลันได้ดีกว่าแบบธรรมดา.
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ช่วยลดการสั่นของเข็มและแรงกระชากของแรงดัน | ราคาสูงกว่าแบบธรรมดา |
สามารถใช้งานในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงความดันฉับพลันได้ดีกว่า | |
ช่วยลดการเกิดฟองอากาศที่เกิดขึ้นจากการสั่นและการเปลี่ยนแปลงของความดัน |
แบบย่านการวัดของเกจวัดความดัน
เกจวัดความดันสามารถแบ่งตามย่านการวัดได้เป็น 3 ชนิด คือ เกจวัดความดันบรรยากาศ (Pressure Gauge) ที่มีสเกลของค่าสูงสุดเริ่มต้นที่ 0, เกจวัดความดันสุญญากาศ (Vacuum Gauge) ที่มีสเกลของค่าติดลบและค่าสูงสุดเริ่มต้นที่ 0, และเกจวัดความดันปกติ (Pressure Gauge) ที่อยู่ในช่วงค่าสูงสุดเริ่มต้นที่ 0.
ในการวัดความดันบรรยากาศ (Pressure Gauge) โดยเฉพาะ เราใช้เบอร์เกจวัดความดันที่มีสเกลของค่าสูงสุดเริ่มต้นที่ 0 โดยหมายเลขค่าสูงสุดบนสเกลจะแสดงด้วยคำว่า “Max” หรือ “Mx” ในขณะที่เบอร์ตำแหน่งสูงสุดอื่นๆจะระบุค่าสูงสุดตามเลขที่แทนตำแหน่งนั้นๆอยู่
สำหรับเกจวัดความดันสุญญากาศ (Vacuum Gauge) ที่สวมใส่ในโหลด เราจะใช้เบอร์กลางที่ประมาณ 0 เมื่อนำมาใช้ในสภาวะความดันแรงดันปกติ ค่าสูงสุดของเกจวัดความดันสุญญากาศจะแสดงด้วยคำว่า “Max” หรือ “Mx” นำหน้าหมายเลขเบอร์
สุดท้าย เกจวัดความดันปกติ (Pressure Gauge) จะมีสเกลของค่าสูงสุดเริ่มต้นที่ 0 โดยเบอร์จะแสดงค่าสูงสุดเป็น “Max” หรือ “Mx” หรืออาจแสดงค่าสูงสุดด้วยหมายเลขที่ได้รับมา
ข้อดีและข้อเสียของเกจวัดความดันแบบธรรมดา
เกจวัดความดันแบบธรรมดามีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนการใช้งาน:
ข้อดีของเกจวัดความดันแบบธรรมดา
- ราคาประหยัด: เกจวัดความดันแบบธรรมดามักมีราคาที่ถูกกว่าเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน
- การใช้งานง่าย: เกจวัดความดันแบบธรรมดาใช้งานง่ายและไม่มีความซับซ้อน ไม่ต้องการการบำรุงรักษาเช่นเปลี่ยนน้ำมัน
- อ่านค่าความดันได้รวดเร็ว: เพื่อการทำงานที่เร็วและมีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสียของเกจวัดความดันแบบธรรมดา
- อาจเกิดปัญหาไอน้ำหรือฝ้าข้างใน: หากอุณหภูมิเย็นหรือมีความชื้นสูงอาจเกิดปัญหาไอน้ำที่จับกันหรือฝ้าข้างในตัวเกจวัดความดัน
- ไม่แนะนำสำหรับงานที่ความแม่นยำสูง: เนื่องจากเกจวัดความดันแบบธรรมดามักมีความคลาดเคลื่อนที่มากกว่าเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง
การเลือกใช้เกจวัดความดันแบบธรรมดาหรือแบบอื่น ๆ ควรพิจารณาความเหมาะสมด้วยการวิเคราะห์เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพและความถูกต้องที่สูงที่สุด.
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ราคาประหยัด | อาจเกิดปัญหาไอน้ำหรือฝ้าข้างใน |
การใช้งานง่าย | ไม่แนะนำสำหรับงานที่ความแม่นยำสูง |
อ่านค่าความดันได้รวดเร็ว |
ข้อดีและข้อเสียของเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน
เมื่อพิจารณาเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน เราต้องรู้จักกับข้อดีและข้อเสียของมันด้วย
ข้อดีของเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน | ข้อเสียของเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน |
---|---|
ช่วยกระตุก/กระเทือนและลดการสั่นของเข็มและแรงกระชากของแรงดัน | มีราคาสูงกว่าแบบธรรมดา |
ช่วยลดการเกิดฟองอากาศที่เกิดขึ้นจากการสั่นและการเปลี่ยนแปลงของความดัน |
เกจวัดความดันแบบมีน้ำมันมีคุณสมบัติที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพในการวัดแรงดันฉับพลัน รวมถึงลดความผิดพลาดในการวัดจากการสั่นและฟองอากาศที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เกจวัดความดันแบบมีน้ำมันมีราคาสูงกว่าแบบธรรมดา ซึ่งอาจเป็นข้อเสียสำหรับบางคนที่มีงบประมาณจำกัด
กรุณาทราบว่าเกจวัดความดันแบบมีน้ำมันจะมีข้อดีและข้อเสียเฉพาะต่อแต่ละงานและสถานการณ์ ดังนั้นคุณควรพิจารณาต้นทุนและความเหมาะสมก่อนที่จะตัดสินใจใช้งาน
การเลือกเกจวัดความดันที่เหมาะสม
เพื่อให้สามารถเลือกเกจวัดความดันที่เหมาะสมกับงานได้อย่างถูกต้อง ควรพิจารณาดังนี้:
- คำนึงถึงย่านของการวัดที่ต้องการ: กำหนดว่าจะวัดแรงดันในช่วงไหนของสเกลที่เกจวัดสามารถอ่านค่าได้
- พิจารณาขนาดหน้าปัดของเกจวัดความดัน: เลือกขนาดหน้าปัดที่เหมาะสมกับการวัดแรงดันในงานที่ต้องการ
- ตรวจสอบขนาดของตัวเครื่อง: ตรวจสอบว่าเกจวัดความดันมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ในการติดตั้งหรือไม่
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตเกลียว: ตรวจสอบว่าวัสดุของเกลียวเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งานหรือไม่
- วัสดุของข้อต่อ: ตรวจสอบว่าวัสดุข้อต่อเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งานหรือไม่
การพิจารณาเหล่านี้จะช่วยให้สามารถเลือกใช้เกจวัดความดันที่เหมาะสมกับงานและสภาพแวดล้อมการใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ย้อนกลับไปยังหัวข้อที่แล้ว
วิธีการใช้งานเกจวัดความดัน
เพื่อใช้งานเกจวัดความดันอย่างถูกต้อง ต้องทำตามขั้นตอนต่างๆดังนี้:
- ติดตั้งเกจวัดความดันให้ถูกตำแหน่งและถูกติดตั้งในทิศทางที่ถูกต้อง: ต้องตรวจสอบว่าเกจวัดความดันถูกติดตั้งให้แน่นอนและสนับสนุนโดยความแข็งแรงของโครงสร้าง ในการติดตั้งเกจวัดความดันบนท่อหรือถัง ต้องใช้อุปกรณ์หรือวิธีการที่มีความเหมาะสมและปลอดภัย ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง
- ตั้งค่าเกจวัดความดันให้ตรงตามค่าที่ต้องการ: หลังจากติดตั้งเกจวัดความดันเสร็จสิ้น ต้องทำการตั้งค่าให้เกจวัดความดันตรงกับค่าที่ต้องการวัด รวมถึงการปรับแต่งการตั้งค่าเจียร์หรือสวิตช์เพื่อให้ได้ค่าความดันที่ถูกต้อง
- ใช้ที่ตั้งที่เหมาะสมสำหรับเกจวัดความดันที่อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม: เกจวัดความดันควรมีที่ตั้งที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ค่าความดันที่แม่นยำ โดยที่ไม่มีสิ่งที่สร้างอุปสรรคหรือเกิดความผิดพลาด เช่น อุณหภูมิร้อนจัดที่วัดความดันแบบธรรมดา ส่งผลให้เกจวัดอาจอ่านค่าไม่ได้หรืออาจเกิดการแตกร้าว
โดยปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าวเป็นอย่างดี เราสามารถใช้เกจวัดความดันอย่างถูกต้องและทันสมัย มีข้อมูลที่แม่นยำ และถูกต้องที่สุดสำหรับงานที่เรากำลังดำเนินการอยู่
สรุป
เกจวัดความดันมีหลายแบบเช่น เกจวัดความดันแบบธรรมดา (Dry pressure gauge) และเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน (Oil Pressure gauge) ทั้งสองแบบนี้มีข้อดีและข้อเสียของของตัวเอง
สำหรับเกจวัดความดันแบบธรรมดา ข้อดีคือราคาประหยัด แต่ข้อเสียคืออาจเกิดปัญหาเมื่ออุณหภูมิเย็น ทำให้เกิดไอน้ำที่จับกันหรือฝ้าข้างในจนอ่านค่าไม่ได้อย่างถูกต้อง
ส่วนเกจวัดความดันแบบมีน้ำมัน ข้อดีคือมีน้ำมันอยู่ภายในที่ช่วยกระตุก/กระเทือนและลดการสั่นของเข็มและแรงกระชากของแรงดัน แต่ข้อเสียคือราคาสูงกว่าเกจวัดความดันแบบธรรมดา
ดังนั้น การเลือกใช้เกจวัดความดันที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการวัดแรงดัน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้งานมีความถูกต้องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น