บริษัท เรเดียส โกลบอล จำกัด info@radiusglobal.co.th , Tel : 02-041-5092 , 095-296-2968
Post: เราอธิบาย: Diaphragm คืออะไรในทางการแพทย์

เราอธิบาย: Diaphragm คืออะไรในทางการแพทย์

diaphragm คือ
สั่งซื้อสินค้าออนไลน์
Power by Odoo

ติดต่อเรา

กะบังลม (Diaphragm) เป็นกล้ามเนื้อชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญในระบบหายใจ มีรูปร่างเป็นร่มชูชีพที่กั้นระหว่างส่วนอกและส่วนท้อง มีหน้าที่เป็นพื้นของช่องอกและเพดานของช่องท้อง กะบังลมมีหลายส่วนประกอบ เช่น ช่องที่มีหลอดอาหารผ่าน (The esophagus opening) และช่องที่หลอดเลือดผ่าน (The aortic opening) ซึ่งประกอบไปด้วยหลอดเลือดเอออร์ตา (Aorta), ท่อน้ำเหลืองทอราซิก (Thoracic duct), และ
หลอดเลือดอะไซกอส (Azygous vein) และช่องที่หลอดเลือดอินฟีเรีย เวนา คาวา (Inferior vena cava) ผ่าน (The canal opening) ที่เลี้ยงกะบังลมฝั่งขวาและซ้ายอีกด้วย

สิ่งที่ควรจำ:

  • กะบังลมเป็นกล้ามเนื้อสำคัญในระบบหายใจ
  • มีหน้าที่กั้นระหว่างส่วนอกและส่วนท้อง
  • ประกอบไปด้วยหลอดเลือดอาหารและหลอดเลือดผ่าน
  • ส่งผลให้เกิดการหายใจในร่างกาย
  • สามารถสร้างความแข็งแรงให้กะบังลมได้

คุณสมบัติของกะบังลม

กะบังลมมีคุณสมบัติที่น่าสนใจที่มีการนำมาใช้ในหลากหลายงานและอุตสาหกรรม ในทางก่อสร้างและเทคโนโลยี เราจะได้เรียนรู้ถึงคุณสมบัติหลายประเภทของกะบังลมที่ได้แก่ วัดดีแอฟรักมีเทียม (diaphragm wall), ปิปัคสายเสียง (sound barrier), วัดฟีสิค (pneumatic gauge), เครื่องขับเสียง (sound generator), และหน้าที่ของกะบังลมในกระบวนการหายใจ

วัดดีแอฟรักมีเทียม (diaphragm wall) เป็นกะบังลมที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในโครงสร้างที่ดิน มีการใช้งานแบบกำหนดตามวัสดุดิบที่ใช้ในการก่อ Diaphragm wall เช่น วัดราดีย์ และวัดไอน์

วัดดีแอฟรักมีเทียม (diaphragm wall) ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงในโครงสร้างที่ดิน

ปิปัคสายเสียง (sound barrier) เป็นกะบังลมที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากที่อื่น และสร้างความเงียบสงบในพื้นที่ใกล้เคียง กะบังลมปิปัคสายเสียงมักถูกใช้ในลานจอดรถหรือที่ใกล้เคียงถนนใหญ่

ปิปัคสายเสียง (sound barrier) ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากที่อื่นและสร้างความเงียบสงบในพื้นที่ใกล้เคียง

วัดฟีสิค (pneumatic gauge) เป็นกะบังลมที่ใช้ในงานตรวจวัดแรงดันในช่องทางอากาศ มักนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมและวัดค่าแรงดันต่างๆ เช่น วัดดีแอฟรักมีเทียม (diaphragm wall), ตารางควบคุมความดันของเครื่อง (pressure control panel) และเครื่องปิดแรงดันอัตโนมัติ (automatic pressure relief valve)

วัดฟีสิค (pneumatic gauge) ใช้ในงานตรวจวัดแรงดันในช่องทางอากาศ

เครื่องขับเสียง (sound generator) เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างเสียง และใช้กับกะบังลมเป็นแหล่งเสียง (sound source) เช่น ในงานพาณิชย์เมื่อมีการจัดแสดงโฆษณา หรืองานส่งเสริมการขาย

เครื่องขับเสียง (sound generator) เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างเสียง และใช้กับกะบังลมเป็นแหล่งเสียง (sound source)

กะบังลมยังมีหน้าที่สำคัญในกระบวนการหายใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการไอ จาม อาเจียน ปัสสาวะ ถ่ายอุจจาระ และการคลอดบุตรด้วย กะบังลมเป็นส่วนสำคัญของระบบทางเดินหายใจ ที่ช่วยให้เกิดการหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปคุณสมบัติของกะบังลมคือ มีคุณสมบัติที่น่าสนใจในหลาย ๆ งานและอุตสาหกรรม เช่น วัดดีแอฟรักมีเทียม (diaphragm wall), ปิปัคสายเสียง (sound barrier), วัดฟีสิค (pneumatic gauge), เครื่องขับเสียง (sound generator) และมีหน้าที่ในกระบวนการหายใจ

องค์ประกอบของกะบังลม

กะบังลมประกอบด้วยพื้นที่ช่องอกและเพดานช่องท้องที่มีหลอดด่างผ่าน (esophagus opening) และแบ่งออกเป็นส่วนซ้ายและขวา ทั้งสองฝั่งของกะบังลมมีเส้นประสาทเฟรนิก (phrenic nerve) ที่เลี้ยงกะบังลม โดยเส้นประสาทเฟรนิกซ้าย (Left phrenic nerve) เป็นต้นกำเนิดจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ และเส้นประสาทเฟรนิกขวา (Right phrenic nerve) เป็นต้นกำเนิดจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ

ช่องอกของกะบังลมมีหลายหลอดเลือด เช่น pericardiacophrenic artery, musculophrenic artery, และ inferior phrenic arteries และหลอดเลือดดำ เช่น superior phrenic vein และ inferior phrenic vein

องค์ประกอบของกะบังลมรายละเอียด
พื้นที่ช่องอกและเพดานช่องท้องที่มีหลอดด่างผ่าน
เส้นประสาทเฟรนิกซ้าย (Left phrenic nerve)ต้นกำเนิดจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ
เส้นประสาทเฟรนิกขวา (Right phrenic nerve)ต้นกำเนิดจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ
หลอดเลือด เช่น pericardiacophrenic artery, musculophrenic artery, inferior phrenic arteriesและหลอดเลือดดำ เช่น superior phrenic vein และ inferior phrenic vein

องค์ประกอบของกะบังลม ประกอบด้วยพื้นที่ช่องอกและเพดานช่องท้องที่มีหลอดด่างผ่าน และแบ่งออกเป็นส่วนซ้ายและขวา ซึ่งทั้งสองฝั่งของกะบังลมมีเส้นประสาทเฟรนิก (phrenic nerve) เส้นประสาทเฟรนิกซ้าย (Left phrenic nerve) เริ่มต้นจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอในขณะที่เส้นประสาทเฟรนิกขวา (Right phrenic nerve) เริ่มต้นจากเส้นประสาทที่อยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ ในช่องอกของกะบังลมยังมีหลายหลอดเลือด เช่น pericardiacophrenic artery, musculophrenic artery, และ inferior phrenic arteries และหลอดเลือดดำ เช่น superior phrenic vein และ inferior phrenic vein

หน้าที่ของกะบังลม

หน้าที่หลักของกะบังลมคือการช่วยในกระบวนการหายใจ โดยจะหดตัวเพื่อลดความดันในช่องอกเพื่อให้อากาศไหลเข้าช่องอก และเมื่อกะบังลมคลายตัว อากาศก็จะไหลออกตาม นอกจากการหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกะบังลมแล้ว ยังมีหน้าที่เกี่ยวกับการไอ จาม อาเจียน ปัสสาวะ ถ่ายอุจจาระ และการคลอดบุตรด้วย

การใช้กะบังลมในกระบวนการหายใจมีความสำคัญอย่างมาก หากกะบังลมไม่ทำงานอย่างชัดเจน อาจทำให้เกิดภาวะผิดปกติทางการหายใจได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย

หน้าที่ในกระบวนการหายใจ

  • ช่วยเปิดปิดทางเดินหายใจเมื่อหายใจและคอยรักษาการถ่ายเทอากาศได้อย่างเหมาะสม
  • ควบคุมการป้องกันสิ่งแปลกปลอม เช่น บริเวณหลอดลม หลอดอาหาร และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ จากเข้าสู่หางอก
  • เร่งการผ่านระบบทางเดินหายใจเมื่อมีการไอ จาม หรือแน่นจากเชื้อโรค
  • ป้องกันการเคี้ยวอาหารหรือเครื่องดื่มที่กลายเป็นส่วนประกอบอื่น ๆ จากเข้าสู่ช่องอก
  • ช่วยในกระบวนการคลอดบุตรโดยการสร้างพื้นที่ว่างให้กับทารก

ความสำคัญของกะบังลมในกระบวนการหายใจไม่ควรถูกข้ามมอง เนื่องจากได้รับหน้าที่ที่สำคัญต่อสุขภาพและการทำงานของร่างกาย

วิธีสร้างความแข็งแรงให้กับกะบังลม

เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับกะบังลม คุณสามารถฝึกกล้ามเนื้อกะบังลมได้ โดยสามารถทำได้โดยการหายใจโดยใช้กะบังลม คือเวลาหายใจเข้าให้หน้าท้องพอง และเวลาหายใจออกให้หน้าท้องยุบลง เพื่อเพิ่มและลดปริมาณของกล้ามเนื้อกะบังลม วิธีนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกะบังลมเพื่อให้ร่างกายสามารถหายใจได้เต็มที่

การฝึกกล้ามเนื้อกะบังลมนั้นสามารถทำได้ด้วยการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการหายใจ อย่างเช่น การหายใจลึก การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจผ่านการออกกำลังกาย เพิ่มความแข็งแรงให้กับกะบังลมจะช่วยให้ร่างกายมีการหายใจที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  1. ฝึกหายใจลึกๆ หายใจลึกๆ ช่วยกระตุ้นกะบังลมให้ทำงานมากขึ้น ฝึกที่บ้านหรือได้เวลาว่าง หากไม่มั่นใจในวิธีการฝึก แนะนำให้ไปเรียนจากผู้เชี่ยวชาญ
  2. ทำโยคะ เลือกโยคะที่มีการหายใจลึก เช่น โยคะพราว โยคะญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกะบังลม
  3. ออกกำลังกายแบบเน้นหายใจ เช่น บาดทะยัก มวยไทย หรือจักรยาน เพื่อกระตุ้นการทำงานของกะบังลม

ง่ายๆ ก็คือ การหายใจลึกๆ เพื่อกระตุ้นกะบังลมให้ทำงานมากขึ้น การฝึกหายใจแบบนี้ควรทำเป็นประจำ และควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มการฝึก

ฝึกการหายใจให้กล้ามเนื้อกะบังลมแข็งแรงเพื่อเสริมสร้างระบบทางเดินหายใจที่ดีและสุขภาพประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้กะบังลมแข็งแรงและสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เช่น การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การบริหารจัดการความเครียด และการรับประทานอาหารที่เหมาะสม

ภาวะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกะบังลม

บางครั้งกะบังลมอาจเกี่ยวข้องกับภาวะความผิดปกติ เช่น การสะอึก (hiccups) ที่เกิดจากการหดตัวของกะบังลม ทำให้เกิดเสียงสะอึกเมื่อมีอากาศไหลออกในช่วงเดียวกับกะบังลม อีกตัวอย่างคือภาวะไส้เลื่อนกะบังลม (hiatal hernia) ที่เกิดจากการหย่อนของฐานเชิงกรานที่ทำให้มีการออกท่อน้ำเหลือง มดลูก หรือกระเพาะปัสสาวะมานอกช่องคลอด

ภาวะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกะบังลม

ภาวะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกะบังลม: การสะอึก (Hiccups)

การสะอึกเกิดจากการหดตัวของกะบังลมและกล้ามเนื้อบริเวณหลอดอาหารอย่างบุคลากรด้านอวัยวะในช่วงที่เชื่อมต่อกับกระเพาะและลำไส้ขนาดเล็ก มีเสียงสะอึกเกิดขึ้นเมื่อมีอากาศไหลออกในช่วงเดียวกับกะบังลม ซึ่งสะอึกนั้นมักจะหายเองภายในระยะเวลาสั้น แต่ในบางกรณีอาจต้องใช้วิธีรักษาพิเศษหากการสะอึกเป็นปัญหาที่กังวลหรือมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

ภาวะความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกะบังลม: ภาวะไส้เลื่อนกะบังลม

ภาวะไส้เลื่อนกะบังลมเกิดจากการหย่อนของฐานเชิงกรานที่ทำให้มีการออกท่อน้ำเหลือง มดลูก หรือกระเพาะปัสสาวะมานอกช่องคลอด อาการที่พบได้รวมถึงอาการเจ็บแน่นหรือรู้สึกเฉียบพลันที่ทรวงอกและกรูเล็บเมื่อกินอาหารจำพวกเผ็ดหรือเป่ายิ้งฉุบ อาจมีไข้, เจ็บคอ, แน่นหน้าอก, หายใจมีเสียงสั้นน้อยลงหรือนึกไม่ได้เลยคือโรคไส้เลื่อนกะบังลม

กล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้องกับกะบังลม

กะบังลมมีกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้อง กระดูกที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกระดูกสันหลังส่วนนอก (thoracic vertebrae) และกระดูกซี่โครง (ribs) ที่มีหน้าที่สนับสนุนและปกป้องกะบังลม

ส่วนกล้ามเนื้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกะบังลมคือกล้ามเนื้อกระบังลม (diaphragm) ที่มีหน้าที่สำคัญที่สุดในกระบวนการหายใจ กล้ามเนื้อกระบังลมมีลักษณะเป็นรูปโดมและตั้งอยู่เหนือหลอดอาหาร ต่อหน้าที่ของกะบังลมในการหายใจ กระบังลมสามารถลดตัวลงเพิ่มขนาดของช่องอกเมื่อหายใจเข้า ทำให้มีพื้นที่สูงขึ้นและช่วยให้กระบวนการหายใจเป็นไปได้มากกว่าเดิม

การทำงานของกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้องกับกะบังลมเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบและซับซ้อน โดยความเรียงลำดับที่ถูกต้องของกระดูกและกล้ามเนื้อทั้งหมดจึงมีผลสำคัญในการให้ความสามารถในกระบวนการหายใจ ปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบนี้รวมถึงการเกิดอาการผิดปกติที่อาจเป็นอาการของภาวะโรคหรือภาวะที่เป็นธรรมชาติ

ระบบทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนสำคัญที่มีความสัมพันธ์กับกะบังลม ประกอบด้วยทางเดินหายใจส่วนบน (ทางเดินหายใจส่วนบน) และทางเดินหายใจส่วนล่าง (ท่อลม หลอดลม ซี่โครง, และปอด) โดยกะบังลมมีหน้าที่หลักในการให้ความช่วยเหลือในกระบวนการหายใจ ในขณะที่กับบังลมส่วนอื่นๆ รวมถึงกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่เสริมเป็นที่อยู่ของหลอดอาหาร และการที่ถูกใช้สำหรับการวัดแรงดันระบบหลอดอาหาร ในทางอ้อม.

ระบบทางเดินหายใจ

ระบบทางเดินหายใจส่วนบน

ระบบทางเดินหายใจส่วนบนประกอบด้วยช่องปาก, ลำคอ, หลอดลมหน้าที่เชื่อมต่อกับหลอดอาหาร, หลอดลมหลวงเพื่อพาอากาศเข้าไปยังปอด และท่อลมหลวงเพื่อพาอากาศออกมาจากปอด

ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง

ระบบทางเดินหายใจส่วนล่างประกอบด้วยหลอดลม ซี่โครง และปอด ท่อลมหลวงทำหน้าที่จัดการกับอากาศที่เข้ามาเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนกับเลือดและการหายใจ

สรุปคือ ระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการหายใจ ประกอบด้วยทางเดินหายใจส่วนบนและทางเดินหายใจส่วนล่าง กะบังลมมีหน้าที่หลักในการช่วยในกระบวนการหายใจ และกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่เสริมเป็นที่อยู่ของหลอดอาหารและวัดแรงดันระบบหลอดอาหาร

สรุป

กะบังลมคือกล้ามเนื้อที่มีความสำคัญสำหรับระบบหายใจ โดยมีหน้าที่ในการช่วยในกระบวนการหายใจ รวมถึงการไอ จาม อาเจียน ปัสสาวะ ถ่ายอุจจาระ และการคลอดบุตร มีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เช่น การใช้เป็นวัดดีแอฟรักมีเทียม การสร้างเป็นปิปักสายเสียง เครื่องขับเสียง และการใช้ในการวัดแรงดันในช่องทางอากาศ จึงเป็นอวัยวะที่สำคัญและมีหน้าที่หลากหลายในระบบหายใจ

ลิงก์ที่มา

Table of Contents

Latest Post

diaphragm valve หน้าที่

วาล์วไดอะแฟรม หน้าที่และการประยุกต์ใช้

วาล์วไดอะแฟรมเป็นวาล์วแผ่นปิดที่มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการไหลของของเหลวในหลากหลายอุตสาหกรรม เราใช้วาล์วไดอะแฟรมเพื่อให้ของเหลวไหลผ่านหรือหยุดไหลตามที่เราต้องการ วาล์วไดอะแฟรมประกอบด้วยวาล์วแผ่นปิดที่สัมผัสกับของเหลวและมีลักษณะพิเศษในการทำงาน

...
diaphragm seals for pressure transmitters

ซีลไดอะแฟรมสำหรับตัวส่งสัญญาณแรงดัน

สวัสดีทุกท่าน! เราขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปสำรวจเกี่ยวกับซีลไดอะแฟรมสำหรับการวัดแรงดันในผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ

...
diaphragm seals

แผ่นปิดแบบไดอะแฟรมสำหรับอุตสาหกรรม

แผ่นปิดแบบไดอะแฟรมเป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงดันที่มีความสำคัญสูงในอุตสาหกรรมในไทย แผ่นปิดแบบไดอะแฟรมคือชิ้นส่วนที่ถูกใช้ในระบบวัดประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในอุตสาหกรรมต่างๆ มีหลายรูปแบบตามการใช้งาน

...